top of page
Search
  • โรงแรมแมว รับฝากแมว ฝากแมว Cat Hoteru

สิ่งที่ท่านควรรู้ก่อนพาสัตว์เลี้ยงไปทำหมัน


ช่วงนี้มีข่าวสลดใจแชร์กันให้เห็นอยู่ในโลกโซเชียล เกี่ยวกับกรณี "เจ้าของพาแมว พาสุนัขไปทำหมัน แต่กลับตาย" สร้างความเจ็บปวดให้กับเจ้าของอย่างที่ไม่สามารถบรรยายความรู้สึกนั้นออกมาได้ เพราะราวกับว่า เรานั้นได้เป็นผู้หยิบยื่นความตายให้กับลูกรักของเราเอง ทางโรงแรมแมว Cat Hoteru และฝนขอแสดงความเสียใจต่อทุกท่านที่ต้องสูญเสียสัตว์เลี้ยงอันเป็นที่รักไปอย่างน่าเศร้า ในกรณีนี้ จึงเห็นสมควรว่าอยากทำเป็นกรณีศึกษาแก่ผู้ใดก็ตามที่มีสัตว์เลี้ยงไว้ในครอบครอง เพื่อหลีกเลี่ยงเหตุการณ์น่าเศร้า

เราควรทำหมันให้กับสัตว์เลี้ยงไหม ??? เนื่องจากประชากรแมวและสุนัขในประเทศเรานั้นมีจำนวนที่มาก และยังเป็นปัญหาให้กับบางพื้นที่ การทำหมันจึงเป็นทางออกที่ดีสำหรับการลดประชากร ซึ่งข้อดีของการทำหมันต่อสุขภาพระยะยาวของสัตว์เลี้ยงนั้นมีมากมาย ดังต่อไปนี้ นอกจากการผ่าตัดทำหมันจะเป็นการคุมกำเนิดถาวรที่ให้ผลดีที่สุดแล้ว ยังเป็นการลดโอกาสการเกิดโรคทางระบบสืบพันธุ์ได้อีกด้วย โดยเฉพาะเนื้องอกเต้านมในแมว อุบัติการณ์ลดลงได้ถึงเกือบ 100% หากมีการทำหมันก่อนสัตว์แสดงอาการเป็นสัดครั้งแรก นอกจากนี้ การตัดรังไข่ มดลูก และอัณฑะออกจะเป็นการกำจัดโอกาสการเกิดความผิดปกติและเนื้องอกของอวัยวะเหล่านี้ออกไปอย่างถาวรอีกด้วย อย่างไรก็ตามไม่แนะนำให้ใช้การฉีดยาเพื่อคุมกำเนิดเนื่องจากส่งผลเสียต่อทั้งสุนัขและแมวมาก งานวิจัยต่างๆระบุว่าเป็นปัจจัยใหญ่ปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เกิดภาวะมดลูกอักเสบเป็นหนอง ซึ่งก่อให้เกิดการติดเชื้อเข้าสู่กระแสเลือด ไตวาย และเสียชีวิตได้ นอกจากนี้ยังส่งผลให้เกิดมะเร็งเต้านมทั้งในสุนัขและแมวอีกด้วย อีกปัญหาหนึ่งคือ หากฉีดในช่วงที่สุนัขหรือแมวตั้งครรภ์แล้วนั้น จะส่งผลให้ไม่สามารถคลอดลูกได้ การพัฒนาของตัวอ่อนอาจผิดปกติไป สุดท้ายลูกสัตว์เสียชีวิต ส่งผลให้แม่เสียชีวิตได้เช่นกัน ดังนั้นการผ่าตัดทำหมันจึงเป็นวิธีที่ดีที่สุดในปัจจุบันนี้ ข้อมูลจาก https://siamrath.co.th/n/52878 พฤติกรรมที่เปลี่ยนไปหลังทำหมันจะเห็นได้ชัดคือพฤติกรรมที่เกี่ยวข้องจากฮอร์โมนเพศจะลดลงมาก การผ่าตัดทำหมันเป็นการตัดเอาแหล่งผลิตฮอร์โมนเพศที่สำคัญออก ดังนั้นพฤติกรรมการขึ้นขี่ (Mounting) ชอบหนีเที่ยว ติดสัตว์เพศเมีย หรือการยกขาปัสสาวะเพื่อบอกขอบเขตอาณาบริเวณความเป็นเจ้าของ (Urine Spraying and Marking) จะลดลงอย่างเห็นได้ชัดในแมวเพศผู้ รวมถึงพฤติกรรมก้าวร้าว ดุ หรือกัดสัตว์ตัวอื่น หรือสมาชิกของบ้านจะลดลง แต่ไม่มีผลกับความก้าวร้าวต่อคนแปลกหน้า นอกจากนั้นความซุกซน ชอบเล่น ไม่มีผลเปลี่ยนแปลงอย่างเด่นชัดหลังทำหมันเช่นเดียวกัน ความอ้วนกับการทำหมันนอกจากสายพันธุ์ เพศ อายุ และอาหารการกินจะเป็นปัจจัยของโรคอ้วนในน้องเหมียวแล้ว ผลการศึกษาหลายฉบับรายงานยืนยันว่าการทำหมันก็เป็นอีกปัจจัยที่สำคัญที่ทำให้น้องเหมียวมีแนวโน้มที่จะมีน้ำหนักเพิ่ม (Overweight) และเป็นโรคอ้วน (Obesity) ซึ่งสามารถอธิบายได้จากการเผาผลาญพลังงานที่ลดลง ความอยากอาหารมากขึ้น นอกจากนี้ สัตว์ที่เป็นโรคอ้วนยังมีแนวโน้มที่จะเกิดโรคต่างๆ ตามมาได้ง่าย เช่น โรคเบาหวาน โรคของต่อมไทรอยด์ชนิด Hypothyroidism และเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคข้อเข่าและเอ็นข้อเข่าฉีกขาด ดังนั้นภายหลังการทำหมัน ทาสแมวควรคำนึงถึงเรื่องของอาหารและการออกกำลังกายของน้องเหมียวด้วย อาจค่อยๆ มีการปรับเปลี่ยนอาหารและเพิ่มการออกกำลังกาย อาหารสำเร็จรูปเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของการคุมน้ำหนักที่ดี เนื่องจากทาสแมวจะทราบปริมาณแน่นอนที่ให้สัตว์กินทั้งนี้ปัจจุบันมีอาหารแมวสำเร็จรูปชนิดที่ให้พลังงานต่ำ (Light Formula) หรือสูตรเฉพาะสำหรับแมวที่ทำหมันจำหน่ายแล้ว เช่น อาหารแมวนำเข้าจากเบลเยี่ยม แบรนด์ ลาร่า (Lara) ที่มีสูตรสำหรับแมวทำหมัน (Sterilized) ให้โปรตีนสูง แต่แคลอรี่ต่ำ ไร้มัน โดยอาหารดังกล่าวจะมีสูตรอาหารที่ให้พลังงานน้อย มีการเพิ่มกากใยมากขึ้น อีกทั้งยังมีการเติมสารอาหารที่เร่งการเผาผลาญไขมัน (Fat Burner) เช่น L-Carnitine จึงช่วยควบคุมน้ำหนักและป้องกันโรคอ้วนได้เป็นอย่างดี และยังสะดวกเพราะสามารถใช้กินได้ทั้งแมวเพศผู้และเพศเมีย ข้อมูลจาก https://siamrath.co.th/n/52878 น.สพ.นายเศกรินทร์ พลอยเพ็ชร์ สัตวแพทย์ประจำโรงพยาบาลสัตว์ห้วยขวาง กล่าวว่า นอกเหนือจากข้อดีของการทำหมันในสัตว์ที่กล่าวมาทั้งหมดแล้ว เจ้าของแมวยังมีสิ่งที่ต้องคำนึงอีก 1 อย่าง คือ ภาวะปัสสาวะเล็ดหลังทำหมัน (Urinary Incontinence) ซึ่งจากการเก็บข้อมูลในต่างประเทศมีรายงานว่า มีโอกาสการเกิดปัญหาปัสสาวะเล็ดที่เพิ่มสูงขึ้นในแมวกลุ่มที่ได้รับการทำหมัน และปัญหาสุขภาพต่างๆ ที่อาจพบตามมาได้ เช่น ผิวหนังอักเสบ การติดเชื้อของกระเพาะปัสสาวะ เป็นต้น ซึ่งเกิดการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของผนังกระเพาะปัสสาวะและท่อปัสสาวะ ทำให้มีแนวโน้มที่การควบคุมปัสสาวะจะทำได้ไม่ดีเหมือนปกติ และเมื่อร่วมกับปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ เช่น ความอ้วน สายพันธุ์ และขนาดตัว แต่การรักษาโดยให้ทานยาจะสามารถลดอาการได้ดี หากมีอาการดังกล่าว แนะนำให้รีบปรึกษาสัตวแพทย์ใกล้บ้าน อย่าปล่อยทิ้งไว้เป็นระยะเวลานาน ซึ่งจะช่วยให้การจัดการกับโรคจะไม่ซับซ้อนมากนักอย่างไรก็ตาม ถึงแม้การทำหมันอาจจะมีผลเสียอยู่บ้าง ซึ่งเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนหลังผ่าตัด แต่ก็ไม่ได้มีอุบัติการณ์ของโรคที่สูงมากนัก นอกจากนี้ การทำหมันก็มีผลดีต่อสุขภาพในด้านอื่นๆ ตามที่กล่าวมา และมีประสิทธิภาพอย่างสูงในแง่ของการคุมกำเนิด เนื่องจากปัญหาการเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างมากของแมวจรจัดในประเทศไทยยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง การรณรงค์ให้เจ้าของแมวนำสัตว์ไปรับการคุมกำเนิดอย่างถูกวิธี ยังเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องกระทำ สิ่งต่างๆ เหล่านี้สัตวแพทย์ยินดีที่จะให้คำปรึกษาเพื่อหาแนวทางที่เหมาะสมเป็นกรณีไป ขั้นตอนการเตรียมพร้อมก่อนการทำหมัน 1. อายุเท่าไรถึงจะทำหมันได้ เคยมีความเชื่อว่าต้องรอให้สัตว์เป็นหนุ่มเป็นสาวเต็มที่เสียก่อนจึงทำหมันได้ คืออายุมากกว่า 1 ปีขึ้นไป หรือมีการแสดงอาการเป็นสัดไปแล้วอย่างน้อย 1 ครั้ง แต่ในปัจจุบันได้มีการศึกษารายงานแล้วว่าสามารถทำหมันในแมวได้ตั้งแต่ 4 เดือนขึ้นไป ซึ่งจะเป็นข้อดีในกรณีที่ต้องการควบคุมจำนวนสัตว์เลี้ยง เพราะถ้ารอจนสัตว์แสดงอาการเป็นสัดไปแล้ว สัตว์อาจบังเอิญได้รับการผสมและตั้งท้องคลอดลูกออกมาเป็นภาระให้เจ้าของได้ โดยเฉพาะแมวเพศเมียบางตัวอาจแสดงอาการการเป็นสัดที่ไม่ชัดเจนซึ่งจะสังเกตได้ยาก

ข้อมูลจาก https://siamrath.co.th/n/52878

2. การทำหมันที่ถูกต้องและเหมาะสม คือ การตัดรังไข่และมดลูกออกทั้งสองข้างในสัตว์เพศเมีย และตัดอัณฑะรวมถึงท่อนำอสุจิออกทั้งสองข้างในสัตว์เพศผู้ ซึ่งวิธีและขั้นตอนการผ่าตัดแต่ละเพศนั้นมีความแตกต่างกัน

**** ดอกจันทร์ ไว้ที่ตรงข้อ 3 เลยนะคะ สำคัญมากๆ นี้คือจุดชี้ชะตาเลยว่าความเสี่ยงต่อชีวิตมากน้อยเพียงใด ***

3.การผ่าตัดจำเป็นต้องมีการวางยาสลบ ดังนั้นสุขภาพของน้องแมวที่จะรับการผ่าตัดทำหมันต้องได้รับการตรวจสุขภาพร่างกายว่าแข็งแรงดี จากนั้นสัตวแพทย์จะทำการนัดวันผ่าตัด ซึ่งน้องเหมียวจะต้องงดอาหารและน้ำอย่างน้อย 6-8 ชั่วโมงก่อนผ่าตัด โดยระยะเวลาในการวางยาในเพศเมียจะใช้เวลามากกว่าเพศผู้ ซึ่งปกติใช้เวลาประมาณครึ่งชม.ถึง 1 ชม. ในเพศเมีย ขึ้นอยู่กับความชำนาญของสัตวแพทย์

4.หลังผ่าตัดเรียบร้อยแล้ว การดูแลแผลหลังผ่าตัดเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรละเลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแมวเพศเมีย เนื่องจากการตัดรังไข่และมดลูกออกจะต้องมีการเปิดผ่าช่องท้องซึ่งนับได้ว่าเป็นการผ่าตัดใหญ่ ทาสแมวจึงมีความจำเป็นที่จะต้องพาแมวไปรับการทำแผลทุกวันติดต่อกันอย่างน้อย 3-4 วัน สัตวแพทย์อาจให้ยาลดปวดหลังผ่าตัดในระยะนี้เพื่อทำให้สัตว์สบายขึ้น ข้อควรระวัง คือ อย่าปล่อยน้องเหมียวออกไปวิ่งเล่นนอกบ้านเนื่องจากแผลอาจมีการติดเชื้อและเกิดรอยปริของแผลตามมาได้

5.ถ้าแผลดีและไม่มีภาวะแทรกซ้อน หมออาจจะนัดตัดไหมประมาณ 7 วันหลังผ่าตัด การทิ้งไหมผ่าตัดไว้นานเกินไป จะทำให้ไหมบาดแผลเกิดการอักเสบของแผลตามมาได้ ในบางกรณีถ้าเจ้าของไม่มีเวลาพาน้องมาตัดไหม การเย็บแผลโดยใช้ไหมละลาย ไม่มีการเย็บบริเวณผิวหนังด้านนอกนั้น สามารถทำได้เช่นกัน แต่ก็ต้องการการดูแลเป็นพิเศษมากขึ้น เช่น จำกัดบริเวณ ใส่ปลอกคอกันเลียตลอดเวลา เป็นต้น เพื่อป้องกันแผลแตกได้

*** อัตราค่าผ่าตัดทำหมันของโรงพยาบาลสัตว์เอกชน ***

คุณหมอทำการตรวจดูโดยทั่ว และตรวจเลือดเพื่อดูความพร้อมของร่างกาย ก่อนผ่าตัด กรณีเม็ดเลือดขาว หรือแดง ต่ำเกินกว่ากำหนด คุณหมอจะแนะนำให้งดการผ่าตัดเพื่อบำรุงร่างกายน้องให้พร้อมก่อนรับการผ่าตัด ในขั้นตอนนี้ฝนไม่แนะนำให้ท่านเจ้าของมองข้าม หรือละเลย ไม่ตรวจเลือด หรือตรวจร่างกายให้น้องก่อนรับการผ่าตัด เพราะนั้นคือจุดที่ทำให้น้องเสี่ยงถึงแก่ชีวิตได้

ยกตัวอย่าง นี้คือหนึ่งในลูกชายของฝนนะคะ คุณหมอพบว่าเยื้อบุตาอักเสบ ตาแดงๆ เลยงดเว้นการผ่าตัดไป 3 สัปดาห์ เพื่อให้เจ้าของบำรุงและรักษาร่างกายน้องก่อน และตรวจเลือดซ้ำอีกรอบ เพื่อดูความเปลี่ยนแปลงว่าดีขึ้น สมบูรณ์พอที่จะผ่าตัดทำหมันไหม

อะรอดไป คิดว่ามาแอบในนี้จะรอดจากการโดนตัดไข่หรอ ? รอไปอีกเดือนนึงค่ะ พักรักษาตัวก่อน ให้ร่างกายแข็งแรง และที่สำคัญแมวบ้านไหน ดุ เครียด ขันขืนดิ้น ขู่ ร้องจนเสียงแหบ อยากให้เจ้าของงดเว้นการผ่าตัดไว้ก่อน รอให้น้องพร้อมก่อน ค่อยนัดมาตรวจเลือด ตรวจร่างกาย และผ่าตัดทำหมันใหม่อีกที เนื่องจากการสอดท่อเข้าไปทางหลอดลมก็มีความเสี่ยงไม่น้อย หากน้องเครียดจะส่งผลให้ หลอดลมน้องมีการหดตัวทำให้หลอดลมในขณะที่สอดท่อนั้น มีขนาดเล็กกว่าท่อ ซึ่งเสี่ยงต่อการบาดเจ็บ หรือร้ายแรงกว่านั้น อยากให้เจ้าของอดทนรอ และค่อยเอาใหม่อีกครั้งนะคะ ไม่สายจนเกินไป

ผ่าตัดเสร็จก็เป็นคุณชายสงบ ๆ น่ารัก ๆ อ้อนกันสุดค่ะ


1,341 views0 comments
bottom of page